เคราะห์ซ้ำ! ‘จัมโบ้’ ภัตตาคารลอยน้ำ จมทะเล หลังร้านเพิ่งประกาศปิดกิจการ

เคราะห์ซ้ำ! ‘จัมโบ้’ ภัตตาคารลอยน้ำ จมทะเล หลังร้านเพิ่งประกาศปิดกิจการ

หลังจากที่ร้าน จัมโบ้ ภัตตาคารลอยน้ำ ชื่อดังในฮ่องกงประกาศปิดตัว และกำลังจะเดินทางไปเก็บไว้ที่อู่ ผลปรากฎเรือจม กู้ซากกลับมาไม่ได้ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ร้านอาหารลอยน้ำ จัมโบ้ ภัตตาคารดังในฮ่องกง จมลงใต้ทะเลจีนใต้ ขณะกำลังเดินทางไปยังที่หมายที่ไม่มีใครทราบ หลังจากที่ภัตตาคารประกาศปิดกิจการ แม้ว่าจะเปิดทำการมานาน 50 ปีก็ตาม

โดยทางเจ้าของกิจการระบุว่าพวกเขาพบสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ 

ทำให้น้ำเข้าไปในเรือจนเรือเอียง ก่อนทำให้เรือจม ทั้งนี้ทางเจ้าของยืนยันว่าพวกเขาได้จ้างวิศวกรมาตรวจสอบและได้รับอนุญาตให้ออกเดินทางได้ เคราะห์ดีที่ไม่มีลูกเรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งทางเจ้าของยังระบุด้วยว่า เรือนั้นได้จมเป็นความลึกลงไปกว่าพันเมตร ทำให้การกู้ซากเรือร้านอาหารจับโบ้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ร้านอาหารลอยน้ำ จัมโบ้ นั้นเป็นร้านชื่อดังและเชื่อว่าเคยมีแขกกว่า 3 ล้านคนมาร่วมรับประทานอาหารจีนในร้านนี้ นอกจากนี้ร้าน จัมโบ้ ยังเคยปรากฎบนภาพยนตร์หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ หรือหนังของเฉินหลง

ทั้งนี้ร้านจัมโบ้ คิงด้อม ประสบปัญหาด้านการเงินและไม่สามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ปี 2556 ก่อนที่พบกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะทำให้ทางร้านเลือกจะปิดตัวในที่สุด

โดยถึงแม้ว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นเพียงแค่การบอกกล่าวกันมา (หรือ ลือ) แต่ทางกระทรวงต่างประเทศของประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มที่จะดำเนินการออกเอกสารแนะนำการปฏิบัติตนในระหว่างที่อาศัยอยู่ภายในประเทศกาตาร์กันแล้ว เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะลามไปเป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศได้

ผู้ใช้งาน Tiktok รายหนึ่ง ได้ทำการโพสต์คลิปบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจกับการที่ ลูกไม่กล้าหลับคนเดียว แต่เพราะด้วยเหตุผลที่แปลกพิศวงก็ว่าได้ (21 มิ.ย. 2565) ในโลกนี้มีเรื่องราวประหลาดต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน โดยหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่งที่เล่าเรื่องราวของการที่ ลูกไม่กล้าหลับคนเดียว แต่สาเหตุของการที่ไม่สามารถหลับได้คนเดียวนั้น ถือว่ามีความน่าประหลาดใจไม่ใช่น้อย โดยเป็นเพราะลูกนั้น เห็นคนหน้าเหมือนแม่ตอนกลางคืนมาชวนให้เข้าไปที่ตู้เสื้อผ้า

โดยเป็นเรื่องราวของผู้ใช้งาน TikTok – @not.cristinayang ที่ในเวลานี้คลิปวิดีโอที่เล่าเรื่องราวดังกล่าวได้มีการรับชมไปแล้วถึง 4 ล้านครั้ง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ เธอได้กล่าถึงสาเหตุว่าทำไมลูกของเธอเลือกมานอนกับพ่อแม่ โดยไม่ใช่เพราะครอบครัวของเธอชอบกับการมีเด็กเล็กที่จะรบกวนการนอนของพ่อแม่แต่อย่างใด แต่เป็นอะไรที่แปลกประหลากมากกว่านั้น

เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากการที่คืนหนึ่งลูกของเธอได้ทำการหลบหนีออกจากเปลนอน และร้องเสียงดัง โดยเจ้าตัวเด็กนั้นได้ปฏิเสธที่จะนอนที่ห้องของตัวเองด้วยกันถึง 8 ครั้ง จนเธอต้องยอมให้ลูกมานอนด้วย และหลังจากนั้น เธอก็พยายามจะพา หรือให้ลูกกลับไปนอนที่ห้องตัวเอง แต่ลูกก็ปฏิเสธและพูดว่า มันมีคนที่มีลักษณะเหมือนแม่เข้ามาหา หลังจากที่พาเข้านอน โดยคนที่ว่าต้องการที่ชักจูงให้เข้าไปที่ตู้เส้อผ้ากับมันด้วย

ซึ่งก็ผู้รับชมวิดีโอดังกล่าวได้สอบถามว่าเธอได้ตั้งกล้องเพื่อจับภาพดูแล้วหรือยัง โดยเธอก็ตอบกลับมาว่า “ใช่ ฉันได้ตั้งกล้องในห้องนั้นไว้อยู่แล้ว และมันไม่มีอะไรปรากฏบนวิดีโอจากกล้องที่ว่าเลย”

นอกเหนือจากนี้แล้วนั้น ก็มีการแสดงความเห็นต่าง ๆ นานากันไป ไม่ว่าจะเป็น มันจะเป็นผี – ปีศาจที่สามารถปลอมแปลงตัวเองได้, หลานของฉันก็เจอกับเหตุการณ์เดียวกัน, ตามพระ – นักบวชมาปัดเป่าขับไล่ และที่สำคัญที่สุด ความเห็นที่ดูเป็นวิทยาศาสตร์ เช่น พาลูกของเธอไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านการนอน มันอาจจะเป็นปัญหาจากการนอนหลับมากกว่า เป็นต้น

ยิ่งกว่าละคร! คู่รักกระโดดน้ำตาย ฝ่ายชายเปลี่ยนใจ สุดท้ายคดีพลิก

กลายเป็นไวรัลสุดเศร้าปนความอิหยังวะ เมื่อคู่รักชาวอินเดียคู่หนึ่งได้ตัดสินใจปลิดชีวิตของตัวเอง ด้วยการกระโดดน้ำฆ่าตัวตายพร้อมกัน เนื่องจากความรักของทั้งคู่ไม่สมหวัง ต่างฝ่ายต่างถูกกีดกัน แต่สุดท้ายฝ่ายชายเปลี่ยนใจไม่ยอมกระโดดลงไปด้วย จึงทำให้คดีพลิก

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมานั้น ทางเว็บไซต์ indiatimes ได้เปิดเผยเรื่องราวของคู่รักชาวอินเดีย จากเมืองประยาคราช รัฐอุตตรประเทศ ที่มีจุดจบสุดงงงวยจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์มากมาย เนื่องมาจากชะตากรรมสุดรันทดของทั้งคู่นั้นมีเรื่องราวชวนตกตะลึงยิ่งกว่าในละคร โดยคู่รักคู่นี้ต่างฝ่ายต่างก็มีคนรักของตัวเองอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดำเนินไปอย่างไม่สมหวังเป็นระยะเวลายาวนานถึง 7 ปี

ทั้งสองคนทุกข์ระทมใจที่ไม่สามารถอยู่กับคนที่รักได้ จึงกำหนดวันและเวลาเพื่อที่จะไปกระโดดสะพานแม่น้ำยมุนาในวันที่ 29 พฤษภาคม 2565 แต่สุดท้ายแล้วหลังจากที่ฝ่ายหญิงกระโดดลงไปในแม่น้ำ ฝ่ายชายก็เกิดอาการหวาดกลัวจนไม่กล้ากระโดดตามลงไป ด้านฝ่ายหญิงที่โดดลงไปก่อนยังไม่จมน้ำในทันทีก็เห็นว่าฝ่ายชายไม่ได้โดดตามลงมาด้วย

ด้วยความโกรธที่ถูกคนรักหักหลัง ฝ่ายหญิงจึงแข็งใจว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง และหลังจากที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เธอก็ได้แจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับฝ่ายชายในข้อหาพยายามฆ่า และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากโทรศัพท์ของฝ่ายหญิงได้รับความเสียหาย และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดก็พบว่าต่างฝ่ายต่างก็มีคู่ครองของตนเองอยู่ก่อนแล้ว โดยทางฝ่ายหญิงนั้นแต่งงานแล้ว และลอบมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับฝ่ายชาย แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางฝ่ายหญิงจำเป็นต้องเดินทางไปต่างเมือง ซึ่งหลังจากที่เธอกลับมาก็พบว่าฝ่ายชายแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น

แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิมะ ญี่ปุ่น